การกำหนดลำดับความสำคัญของฐานข้อมูล (Database) สามารถพิจารณาจากหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้วเราจะพิจารณาจากความสำคัญและความเหมาะสมในการใช้งานต่อไป ดังนี้:
- ประสิทธิภาพ (Performance): การทำงานของฐานข้อมูลควรมีประสิทธิภาพที่เหมาะสม โดยไม่มีการค้างคาในการเรียกข้อมูล และสามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานพร้อมกันได้มากเพียงพอต่อความต้องการ
- ความน่าเชื่อถือ (Reliability): ฐานข้อมูลควรมีความน่าเชื่อถือในการรักษาความถูกต้องของข้อมูล และสามารถกู้คืนข้อมูลที่สูญหายได้ในกรณีฉุกเฉิน
- ความปลอดภัย (Security): ความปลอดภัยของฐานข้อมูลมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และการป้องกันการโจมตีแบบต่าง ๆ เช่น การถูกแฮ็ก (Hacking) หรือการโจมตีแบบไซเบอร์
- ความเหมาะสม (Suitability): ฐานข้อมูลควรเหมาะสมกับงานและการใช้งานที่ต้องการ ไม่เกินไปหรือขาดเกินความเหมาะสม และสามารถรองรับลักษณะของข้อมูลที่จะถูกจัดเก็บ
- การสำรองข้อมูลและกู้คืน (Backup and Recovery): ระบบฐานข้อมูลควรมีการสำรองข้อมูลอย่างเป็นระบบและสามารถกู้คืนข้อมูลในกรณีเกิดความเสียหายหรือข้อมูลสูญหาย
- ความสามารถในการขยายขนาด (Scalability): ความสามารถในการขยายขนาดของฐานข้อมูลเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของข้อมูลและจำนวนผู้ใช้งาน
- ความสามารถในการทำงานร่วมกับระบบอื่น (Interoperability): ฐานข้อมูลควรสามารถทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ และรองรับมาตรฐานและโปรโตคอลที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม
- รูปแบบและโครงสร้างของข้อมูล (Data Format and Structure): ควรมีโครงสร้างข้อมูลที่เหมาะสมและชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงและการดูแลรักษา
- ความใช้งานและการจัดการ (Usability and Manageability): ควรมีอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่ายและการจัดการที่เป็นมิตรกับผู้ดูแลระบบและผู้ใช้งาน
- ความเป็นเอกภาพ (Uniqueness): การเลือกใช้ระบบฐานข้อมูลที่เป็นเอกภาพอาจเกิดจากความต้องการของงานหรือความแตกต่างของระบบฐานข้อมูลในแต่ละองค์กร
ความสำคัญของลำดับเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะงานและการใช้งานของแต่ละองค์กร การเลือกใช้ฐานข้อมูลที่เหมาะสมสามารถช่วยให้องค์กรมีประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลและการเป็นอยู่ในโลกดิจิทัลในยุคปัจจุบัน
Welcome To Webblog : https://ssomsak.data.blog
งานนี้ได้รับอนุญาตภายใต้Creative Commons Attribution-ShareAlike 4.0 International License
G.Dev.Ssomsak 
ใส่ความเห็น